เติมพลังหลังปิดเทอมฤดูหนาว เที่ยว 6 เมืองในจังหวัดซากะ ญี่ปุ่น (3)

ซากะ นักปรัชญา เช้าของอีกวัน เราตื่นมาเจอแสงส่องผ่านหน้าต่างห้องข้างๆ สถานีซากะ หลังจากเก็บสัมภาระเสร็จแล้ว ผมก็รีบออกไปหาอาหารเช้าทันทีและไปเดินเล่นสบายๆ แม้ว่าที่นี่จะดูล้อมรอบด้วยอาคารต่างๆ แต่ก็ไม่พลุกพล่านเหมือนเมืองใหญ่ คนที่รอรถบัสหน้าสถานีรถไฟไม่ได้แออัดเป็นปลากระป๋องอย่างที่เราคิด บางคนขี่จักรยานสบาย โดยไม่รีบร้อนพร้อมทักทายเพื่อนบ้านใกล้เคียง

สำหรับที่นี่ถ้าคุณมีเวลาจำกัดก็ขึ้นรถไปที่ไหนก็ได้ครับ สถานที่ที่ต้องไปเยี่ยมชมคือปราสาทซากะที่มีมาตั้งแต่สมัยเอโดะตอนปลาย และเป็นปราสาทไม้ที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น แม้จะไม่ได้ยิ่งใหญ่อลังการเหมือนปราสาทอื่นๆ ในญี่ปุ่น เพราะเป็นปราสาทชั้นเดียวและสร้างขึ้นบนพื้นดิน แต่เรื่องราวหรือความสวยงามของสถาปัตยกรรมภายในและภายนอกปราสาท ถือว่าไม่แพ้ที่ไหนๆ เลยทีเดียว

เจ้าหน้าที่พิพิธภัณฑ์ให้การต้อนรับเราอย่างเป็นกันเอง โดยเริ่มพาเราไปที่ที่ใส่รองเท้าและเก็บสัมภาระเพื่อให้เราเดินได้ง่ายขึ้น พร้อมแนะนำแต่ละโซนของพิพิธภัณฑ์คร่าวๆ ก่อนแจกที่คั่นเล็กๆ ไว้เป็นที่ระลึก แล้วให้เราเดินเข้าไปข้างใน

บริเวณปราสาทนั้นกว้างขวางมาก มีห้องโถงใหญ่เรียงรายไปด้วยเสื่อทาทามิซึ่งเป็นช่วงเทศกาลฮินะหรือวันเด็กผู้หญิง ในห้องโถงมีรูปปั้นตุ๊กตาขนาดเล็กตั้งโชว์อยู่ทั่วห้องเพื่อมองลงมาเล่น นอกจากนี้ยังมีห้องนิทรรศการที่บอกเล่าเรื่องราวของปราสาทแห่งนี้อย่างละเอียด รวมทั้งเอกสารและแผนผังของปราสาทตั้งแต่มีการก่อสร้าง ซากปรักหักพังเมื่อปราสาทถูกไฟไหม้และห้องประชุมของเมียวที่เคยอาศัยอยู่ที่นี่

เนื่องจากจังหวัดซากะเป็นประตูจากเมืองนางาซากิไปยังเมืองเอโดะหรือโตเกียวในปัจจุบัน สิ่งนี้ทำให้อัญมณีมีวิวัฒนาการมาจากชาติตะวันตกเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นเครื่องจักรไอน้ำ อาวุธ อุปกรณ์ทางการแพทย์ ทั้งหมดจัดแสดงเป็นโซน หากใครต้องการทราบเรื่องราวเกี่ยวกับปราสาทที่นี่แบบละเอียดในขณะที่เดินไปมา พิพิธภัณฑ์ยังมีเครื่องบรรยายออดิโอไกด์ให้ยืมฟรีหนึ่งเยน

โยชิโนะการิ

ตะวันเริ่มลับขอบฟ้า สายลมยามบ่ายพัดเข้ามาแผ่วเบา เหมือนบอกลาเราโบกมือลาคุณป้าที่ร้านข้าวปลาไหลเล็กๆ แต่บรรยากาศที่อบอุ่นที่สุดในเมืองซากะที่จะมุ่งหน้าไปยังเมืองโยชิโนะการิที่อยู่ไม่ไกล

อุทยานประวัติศาสตร์โยชิโนการิเป็นสถานที่ที่เราตั้งใจจะไปเยี่ยมชมเป็นพิเศษ เนื่องจากเป็นทั้งโบราณสถานที่สำคัญตั้งแต่สมัยยาโยอิ ซึ่งเป็นยุคก่อนประวัติศาสตร์ 300 ปีก่อนคริสตกาล แถมบรรยากาศธรรมชาติยังร่มรื่นเหมือนอยู่ในสวนสาธารณะขนาดใหญ่

ต้องบอกว่าสวนแห่งนี้กว้างขวางมาก จนรู้สึกว่าเดินมาทั้งวันแล้วบางทีก็เดินไม่ได้เลย นอกจากโซนจำลองที่พักและไลฟ์สไตล์ที่เป็นจุดสำคัญแล้ว ยังมีโซนกิจกรรมอีกมากมายรวมถึงสนามกอล์ฟ สนามเด็กเล่น สวนสัตว์ขนาดเล็ก หรือนำอาหารมาปิกนิก อุทยานฯ มีพื้นที่รับรอง

เริ่มเดินเข้าสู่เขตประวัติศาสตร์ครั้งแรก เพราะความสนใจมากที่สุดควบคู่ไปกับเวลาที่จำกัดของเรา อดีตที่ตั้งของอุทยานแห่งนี้ครั้งหนึ่งเคยเป็นแหล่งโบราณคดีที่ใหญ่ที่สุดที่เคยค้นพบในญี่ปุ่น พร้อมด้วยหลักฐานหลักฐานทางโบราณคดีเกี่ยวกับสมัยยาโยอิ ส่วนใหญ่ขุดพบในภูมิภาคคิวชู สวนสาธารณะจึงจำลองบ้านเรือนและวิถีชีวิตของคนในสมัยนั้น เช่น เขตมินามิ-ไนคาคุ เขตที่อยู่อาศัยของผู้นำเมืองที่ล้อมรอบด้วยคูน้ำและกำแพง โดยที่พักได้ไปดูวิถีชีวิต ของใช้ เครื่องใช้ หรือครัว พร้อมทั้งหอดูดาว ให้เราได้ชมวิวจากมุมสูง

อีกโซนที่ไม่ไกลกันคือโซน Kitanaikaku (Kita-Naikaku) เป็นโซนที่ศักดิ์สิทธิ์และมีมนต์ขลังมาก ที่สะดุดตาที่สุดคืออาคารไม้สองชั้นขนาดใหญ่ เป็นหอประชุมเพื่อออกผู้ว่าราชการจังหวัด หรือประกอบพิธีกรรมตามความเชื่อทางศาสนาในยุคนั้น

ทั้งสองโซนที่เรากล่าวถึงเป็นเพียงโซนเล็กๆ เพราะในละแวกเดียวกันมีโซนที่น่าสนใจตลอดทาง เช่นเดียวกับบ้านคนทั่วไป โกดัง สุสาน หากใครอยากเดินผ่านเขตประวัติศาสตร์นี้โดยไม่เร่งรีบ ก็ควรใช้เวลาหลายชั่วโมง และเราตั้งใจจะขึ้นรถบัสภายในสวนกลับมาที่จุดทางออก แต่ดูเหมือนรถจะมาไม่ตรงเวลา เลยตัดสินใจเดินย้อนกลับมาลงเอยด้วยการทุบกาชาปองเป็นที่ระลึก

ติดตามบทความ / ข่าวสารเพิ่มเติม ได้ที่ : greenstoneofheathcote.com